รูปแบบในการวางเดิมพันของ เกมพนันรูเล็ต ออนไลน์ มีอะไรบ้าง ?

ในการจะเล่นรูเล็ตให้เป็นนั้น ผู้เล่นจำต้องรู้วิธีการวางเดิมพันเสียก่อนเพื่อที่จะได้สามารถคำนวณ และ วางแผนการเล่นให้ได้ดียิ่งขึ้น และ ที่สำคัญคือไม่เสียเปรียบเจ้าจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งจะมีรูปแบบการวางเดิมพัน และ อัตราการจ่ายหลากหลายชนิดแตกต่างกันไป ในการ เล่น เกมพนันรูเล็ต

1. เริ่มที่ การวางเดิมพันแบบตรง หรือ เต็งเลข คือ การที่ผู้เล่นเลือกวางเดิมพันที่ตัวเลขนั้น ๆ เลย เช่น 5, 10, 19, 25 หากเมื่อวงล้อหยุดหมุนแล้วลูกเหล็กกลิ้งไปลง ณ ช่องหมายเลขที่ผู้เล่นวางเดิมพันไว้ ก็จะชนะเกมพนันโดยมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 35 นั่นคือ วางเดิมพัน 1 บาท จะได้ผลตอบแทนจากการชนะ 35 บาท นั้นเอง

2. ต่อมาก็การวางเดิมพันแบบแบ่ง คือ การที่ผู้เล่นเลือกวางเดิมพันได้ทั้งแนวตั้ง และ แนวนอนของคู่ตัวเลขในตารางที่อยู่ติดกัน หรือ จะเป็นช่องตารางของชุดตัวเลข 01 02 03 ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยทำการวางเดิมพันไว้ที่เส้นแบ่งช่องของตาราง ณ คู่ตัวเลขนั้น ๆ โดยจะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 17 นั่นคือ วางเดิมพัน 1 บาท จะได้ผลตอบแทนจากการชนะ 17 บาท

3. เเละมาต่อที่ การวางเดิมพันแบบสตรีท คือ การที่ผู้เล่นเดิมพันชุดตารางของตัวเลขที่เรียงกันอยู่ในแนวตั้ง โดยการวางเดิมพันชนิดนี้จะมีอันตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 11 นั่นคือ วางเดิมพัน 1 บาท จะได้รับผลตอบแทนจากการชนะ 17 บาท

4. เเละก็ตามต่อที่ การวางเดิมพันแบบมุม คือ การที่ผู้เล่นเลือกวางเดิมพันในตารางของชุดตัวเลข 4 ช่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่อยู่ในตำแหน่งหัวมุมของโต๊ะ โดยเป็นการวางเดิมพันชนิดนี้จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 8 นั่นคือ วางเดิมพัน 1 บาท จะได้ผลตอบแทนจากการชนะ 8 บาท

5. จนถึง การวางเดิมพันแบบไลน์ คือ การที่ผู้เล่นวางเดิมพัน ณ ตารางของชุดตัวเลข 6 ตัวเลข ซึ่งจะคล้ายกับแบบสตรีท แต่เป็นการวางเดิมพันแบบสตรีท 2 ชุดติดกันนั่นเอง ซึ่งจะรวมกันได้ 6 ตัวเลขพอดี โดยการวางเดิมพันแบบนี้จะมีอัตราการจ่ายอยู่ 1 ต่อ 5 นั่นคือ วางเดิมพัน 1 บาท จะได้รับผลตอบแทนจากการชนะ 5 บาท

6. เดิมพันรูเล็ตแบบโหล คือ การที่ผู้เล่นวางเดิมพันชนิดนี้จะทำให้โอกาสชนะเกมพนันมากขึ้น นั่นคือเลือกวางเดิมพันในช่องพิเศษตามแถวที่ 1st(1-12), 2nd(13-24) หรือ 3rd (25-36) โดยจะเป็นการวางเดิมพันในชุดตารางตัวเลขทั้งแถว 12 ตัวเลข โดยการวางเดิมพันชนิดนี้จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 2 นั่นคือ วางเดิมพัน 1 บาท จะได้รับผลตอบแทนจากการชนะ 2 บาท

7. มาต่อกันที่ การวางเดิมพันแบบสี คือ การที่ผู้เล่นเลือกวางเดิมพันแค่ชนิดของสีโดยไม่สนใจว่าผลลัพธ์จะออกเป็นตัวเลขใด ขอแค่เพียงสีถูกก็พอ โดยจะมีสีให้เลือกวางเดิมพันคือ สีแดง กับ สีดำ ซึ่งการเล่นชนิดนี้เป็นการวางเดิมพันที่มือใหม่หัดเล่น หรือ พวกชิมลางนิยมที่สุดเพราะมีโอกาสถูก 50/50 โดยการวางเดิมพันชนิดนี้จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 1 นั่นก็คือ หากผู้เล่นวางเงินเดิมพัน 1 บาท จะได้รับผลตอบแทนจากการชนะพนัน 1 บาท เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นการแทงที่ Fair Game ที่สุด

8. เเละก็ตามมาด้วย การวางเดิมพันแบบ คู่ – คี่ คือ การวางเดิมพันอีกแบบหนึ่งที่เล่นง่ายเหมือนกันกับการเดิมพันสี โดยจากเป็นการวางเดมพันแค่เพียงทายตัวเลขที่ผลลัพธ์จะออก ว่าเป็นเลขคู่ หรือ เลขคี่ เพียงแค่นั้น โดยการวางเดิมพันชนิดนี้จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 1 เช่นกัน นั่นคือ แทง 1 บาท หากชนะก็จะได้ 1 บาท

9. เเละสุดท้ายก็ การวางเดิมพันแบบแทง สูง – ต่ำ คือ เป็นการเดิมพันที่ผู้เล่นจะต้องเลือกวางเดิมพันแค่เพียงว่าตัวเลขที่ออกจะเป็นตัวเลขที่มีค่าสูง หรือ เป็นตัวเลขที่มีค่าต่ำ โดยตัวเลขที่มีค่าต่ำคือตัวเลขตั้งแต่ 1 – 18 และ ตัวเลขที่มีค่าสูงคือตัวเลขตั้งแต่ 19 – 36 โดยในการวางเดิมพันชนิดนี้จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 1 เหมือนกันกับการวางเดิมพันแบบสี และ การวางเดิมพันแบบ คู่ – คี่ นั่นคือหากวางเดิมพัน 1 บาท จะมีผลตอบแทนจากการชนะพนันอยู่ที่ 1 บาท เช่นกัน

Published: By Black
Last modified on